แถลงปฏิบัติการ CYBER CHASE ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายนายหน้าบัญชีม้า โพสต์ซื้อขายในกลุ่มลับ "บัญชีม้า"

แถลงปฏิบัติการ CYBER CHASE

ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายนายหน้าบัญชีม้า โพสต์ซื้อขายในกลุ่มลับ "บัญชีม้า"

.

วันจันทร์ที่ 25 มี.ค.67 เวลา 13.30 น. ณ อาคารสัมมนาและฝึกอบรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เมืองทองธานี)

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) นำโดย นายสุทธิเกียรติ วีระกิจพานิช ที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายการเมือง, นายอาชวิน อยู่บำรุง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำโดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.,

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิพล บุญเกิด ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3, และ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวปฏิบัติการ “Cyber Chase” กรณี ตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายนายหน้าบัญชีม้า โพสต์ซื้อขายในกลุ่มลับ "บัญชีม้า"

.

ตามที่ได้มีขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ส่ง SMS หลอกลวงประชาชนให้ทำการติดตั้งแอปพลิเคชันการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อคืนเงินชดเชยช่วงสถานการณ์ COVID สุดท้ายเมื่อมีผู้หลงเชื่อกดติดตั้งไปแล้ว คนร้ายจะเข้าควบคุมโทรศัพท์และโอนเงินออกไปจากบัญชีจนหมด ซึ่งกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มีการจับกุมและแถลงข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

.

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 เร่งรัดปราบปรามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว

.

ต่อมา พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนขยายผล จนพบว่ามีกลุ่มคนไทยซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือขบวนการมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน โดยมีพฤติการณ์เป็นนายหน้ารับซื้อ บัญชีม้า ซิมม้า ตามสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อจัดหาได้แล้วจะส่งไปขายให้กับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกลุ่มขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ก็ได้ใช้บัญชีม้าและซิมม้านี้เองกลับมาเป็นเครื่องมือหลอกลวงทำร้ายคนไทย สร้างความเดือดร้อนต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับกลุ่มขบวนการนี้ไว้

.

ต่อมาเมื่อ พ.ต.ต.สุธี บุดดีคำ สว.ฯ และ ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.สอท.5 ได้นำหมายค้นของศาลเข้าตรวจค้นคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง บริเวณ ถ.ช่างอากาศอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ เนื่องจากสืบทราบว่า นางสาวเดือน (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ โดยจากการตรวจค้นภายในห้องยังพบของกลางประกอบด้วย

.

1.สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ ของบุคคลอื่น จำนวน 8 เล่ม

2.ซิมการ์ดโทรศัพท์ซึ่งมีการลงทะเบียนไว้แล้ว จำนวน 11 หมายเลข

3.กล่องพัสดุสำหรับใช้ส่งสินค้าจำนวนมาก

.

จากการสอบถาม นางสาวเดือน ให้การรับสารภาพว่า ตนไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักเป็นแหล่ง จะหารายได้จากการเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีม้า โดยทำมาแล้วประมาณปีเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองเคยขายบัญชีให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ เมื่อเห็นว่ารายได้ดี จึงได้เริ่มผันตัวเองมาเป็นคนกลางหรือนายหน้าแทน โดยวิธีการจะประกาศรับซื้อบัญชีในกลุ่ม Facebook ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ราว 16,000 คน เมื่อมีคนสนใจจะขาย จะให้ไปทำการเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และเปิดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อใช้งานคู่กับบัญชีดังกล่าวผ่านระบบ Mobile Banking โดยนางสาวเดือนจะรับซื้อบัญชีม้าในราคาประมาณ 1,000 บาท จากนั้นจะทำการส่งสมุดบัญชี, บัตร ATM และหมายเลขรหัสต่างๆ ทางพัสดุ เพื่อขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บริเวณตามแนวชายแดน จ.สระแก้ว โดย นางสาวเดือน จะได้รับค่าจ้างบัญชีละ 4,000 บาท

.

นอกจากนี้ นางสาวเดือนยังรับว่า เนื่องจากปัจจุบันมีมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำหนดให้การโอนเงินเกิน 50,000 บาท จะต้องสแกนหน้า ทำให้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการ โดยให้ “ม้า” หรือผู้ที่ขายบัญชี หลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อไปจะมีการจัดที่พักให้ โดยมีหน้าที่คอยสแกนหน้าเมื่อมีการโอนเงิน เมื่อบัญชีถูกระงับก็จะเดินทางกลับมา โดยส่วนใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะให้ “ม้า” เปิดบัญชีคนละ 5 บัญชี ได้ค่าจ้างรวม 15,000 บาท ส่วนตนได้ค่าตอบแทน 5,000 บาท

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นางสาวเดือน ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ , ร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน , ร่วมกันเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะฯ , ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลงซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยมิชอบฯ , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ หรือใช้เบิกถอนเงินสด และ เป็นธุระจัดหาโฆษณาหรือไขข่าวด้วยประการใดเพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 อยู่ระหว่างติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ และขยายผลไปยังตัวการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป

.

#ตำรวจไซเบอร์ #สอท #จับกุม #บัญชีม้า #จัดหาบัญชีม้า

#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB