ตร.ไซเบอร์พร้อมกรมที่ดินร่วมแถลง กรณีทลายขบวนการหลอกติดตั้งแอปกรมที่ดินปลอม

ตร.ไซเบอร์พร้อมกรมที่ดินร่วมแถลง

กรณีทลายขบวนการหลอกติดตั้งแอปกรมที่ดินปลอม

รวบยกแก๊งพร้อมเงินสดกว่า 2.7 ล้านบาท

.

วันนี้ (17 ต.ค.66) เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. และ นายวสันต์  สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน พร้อมด้วย พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2  และ พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 ร่วมแถลงข่าว กรณีผู้เสียหายถูกหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันดูดเงิน สูญเงินรวมกว่า 2.1 ล้านบาท หลังจากรับสายมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน ณ ห้องประชุมชั้น 3 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขาสอยดาว จ.จันทบุรี โดยให้การว่า มีมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมที่ดินได้โทรสอบถามและแจ้งให้ชำระค่าภาษีที่ดิน ผู้เสียหายหลงเชื่อ มิจฉาชีพจึงส่งลิงก์ให้ผู้เสียหายกด ระหว่างคุยสายนั้นมิจฉาชีพได้หลอกสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลตลอดถึงหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ต่อมามิจฉาชีพได้ให้ผู้เสียหายติดตั้งแอปพลิเคชัน และดำเนินการตามกลวิธีต่างๆ ที่คนร้ายแจ้ง กระทั่งรู้ตัวอีกทีเมื่อโทรศัพท์ของผู้เสียหายค้าง ไม่สามารถดำเนินการใดใดได้ สุดท้ายพบว่าเงินของผู้เสียหายถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารไปจำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรก จำนวน 2 ล้านบาท ครั้งที่สอง เป็นเงินจำนวน 1.3 แสนบาท รวมทั้งสิ้นประมาณ 2.7 ล้านบาท เมื่อรู้ตัวว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกติดตั้งแอปพลิเคชันเข้ามาควบคุมโทรศัพท์และโอนเงินออกจากบัญชี ผู้เสียหายจึงรีบลบแอปพลิเคชันดังกล่าวทิ้ง และเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับคนร้าย

.

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท เปิดเผยว่า จากพฤติการณ์ดังกล่าว เป็นลักษณะของคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ข้อ 5.10 คดีหลอกลวงให้ติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบในเครื่องโทรศัพท์ ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 182/2566 ลง 17 มี.ค.66 ซึ่งภายหลังจากที่มีการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว บช.สอท. จึงได้รับมอบสำนวนการสอบสวน และเป็นผู้รับผิดชอบการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมาย

.

ต่อมาได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 สั่งการ พ.ต.อ.จักรกฤช  ศรีโรจนากูร ผกก.2 บก.สอท.2 เร่งรัดดูแลรับผิดชอบการสืบสวนสอบสวน จากการตรวจสอบพบว่าเงินในครั้งแรก เงินของผู้เสียหายได้ถูกยักย้ายถ่ายโอนไปยังบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้ายกว่า 4 บัญชี ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาที ส่วนในครั้งที่สอง จำนวน 7 บัญชี ใช้เวลาประมาณ 11 นาที สูญเงินทั้งสิ้นประมาณ 2,130,000 บาท

.

.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการผู้ต้องหาทั้งสิ้น 10 ราย ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์,ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, เข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรจะรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือหรือความผิดอาญาอื่นใด” โดยสนธิกำลังสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาแล้ว ทั้งสิ้น 8 ราย และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว 2 ราย

.

ทั้งนี้ ขณะเข้าจับกุมตัว 1 ในกลุ่มผู้ต้องหา ยังสามารถตรวจยึดเงินสดที่เชื่อว่าได้มาจากการหลอกลวงเหยื่อ จำนวน2,679,000 บาท พร้อมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ยี่ห้อ Iphone 13 จำนวน 1 เครื่อง จึงนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

.

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. กล่าวอีกว่า ตำรวจไซเบอร์ได้ให้ความสำคัญในแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและจริงจังมาโดยตลอด โดยในห้วงที่ผ่านมามีการกระทำความผิดอยู่บ่อยครั้ง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมากนับครั้งไม่ถ้วน การปฏิบัติการในครั้งนี้นอกจากจะสามารถติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งขบวนการซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศแล้ว ยังสามารถติดตามตรวจยึดของกลางขณะที่ผู้ต้องหาซึ่งกำลังทำหน้าที่เบิกถอนเงินสดจากเคาเตอร์ธนาคารได้ทันท่วงที ซึ่งทำให้ผู้เสียหายมีโอกาสได้รับเงินที่ถูกหลอกลวงไปกลับคืนได้ในอนาคต

.

นายวสันต์  สุภาภา รองอธิบดีกรมที่ดิน ฝากประชาสัมพันธ์ย้ำเตือนพี่น้องประชาชน

ปัจจุบันมีมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อกรมที่ดิน หลอกลวง 3 รูปแบบ ได้แก่ ปลอมแปลงหนังสือราชการ สร้างทำเว็บไซต์กรมที่ดินปลอม ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และ โทรศัพท์หลอกลวงในรูปแบบต่างกัน เช่น เรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดิน เรื่องการรังวัดที่ดิน ฯลฯ โดยจะหลอกให้เพิ่มเพื่อนผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และให้กรอกข้อมูลส่วนตัว หรือสแกนใบหน้าเพื่อนำข้อมูลของผู้เสียหายไปใช้ในทางมิชอบ ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำว่า กรมที่ดิน ไม่โทรหา ไม่ขอแอดไลน์ ไม่มีหน้าที่เก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และไม่มีหน้าที่อัพเดทข้อมูลอาคารชุด/หมู่บ้านจัดสรร หรือบริการธุรกรรมทางโทรศัพท์ หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิดหรือมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานที่ดินทุกแห่งทั่วประเทศ หรือ Call Center กรมที่ดิน 0 2141 5555

.

นอกจากนี้ ยังได้แถลงผลการดำเนินการกรณีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ถูกหลอกลวงผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อบัญชี “Nan99” ชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายสินทรัพย์ดิจิตัล ต่อมา พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.4 บก.สอท.2 ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ซึ่งภายหลังได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 4 ราย ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคนอื่น และร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์  อันเป็นเท็จฯ, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก โดยประการที่รู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

.

หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ยังได้มีตัวแทนผู้เสียหายนำกระเช้าเข้ามอบแก่ ผบช.สอท. เพื่อแสดงการขอบคุณ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนติดตามจับกุมผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีได้

.

#ตำรวจไซเบอร์ #จับกุม #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หลอกดูดเงิน #กรมที่ดิน


#ตำรวจไซเบอร์  #CCIB